วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เคล็ด(ไม่)ลับกับเจ้านายสัญชาติญี่ปุ่น(1)


สวัสดีค่า ขอบคุณที่ติดตามบล็อกน้อยๆของเก๊ากันนะ T^T
หายไปนานหลายปีแสงมากก (เดือนกว่าๆ >。<) พยายามหาหัวข้อจะมาพิมพ์ แต่ยุ่งมากชิงๆนะตะเองง เอาล่ะ วันนี้ฤกษ์งานยามดี มีเรื่องเขียนแย้วว

เขียนโพสต์นี้ได้นี่ต้องอาศัยการสั่งสมวิทยายุทธมานานมาก 555 เนื่องจากทำงานในบริษัทญี่ปุ่นที่หนึ่งซึ่งทำให้เรามีโอกาสติดต่อกับคนญี่ปุ่นหลายคน ก็เลยอยากจะมาแชร์วิธีการทำงานให้ถูกจริตคนญี่ปุ่นกันค่ะ

เรื่องแรกที่สำคัญที่สุดเลยคือ เวลา ค่ะ
อย่างที่เราชาวไทยทราบกันดีว่าญี่ปุ่นเป็นชาติที่ตรงต่อเวลามากถึงมากที่สุด (ซึ่งตรงข้ามกับชาติเราโดยสิ้นเชิง -.-) เพราะฉะนั้นการทำงานกับคนชาตินี้ก็แน่นอนค่ะ เรื่องเวลาสำคัญมากๆ

แต่ใช่ว่ามาทำงานตรงเวลาก็พอแล้ว โอเค นั่นอาจไม่ทำให้นายโมโห แต่ไม่ได้ทำให้เกิดฟีลลิ่งประทับใจมากมายอะไรนะ!จะให้นายปลื้มเนี่ยก็ต้องมาก่อนเวลาค่ะ

นอกจากเข้าก่อนแล้ว ตอนพักเที่ยงก็เช่นกัล เที่ยงปุ้บถึงเริ่มเก็บของนะคะ ไม่ใช่เที่ยงปุ้บ ผีนักวิ่ง4*100เมตรสิง ลุกจากเก้าอี้แล้ววิ่งปุ้ดดไปหาอะไรกินในทันที

พอเที่ยง ก็ค่อยวางมือจากงาน ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์ ละเมียดละไมเก็บของ หยิบกระเป๋าสตางค์ แล้วเดินนวยนาดออกจากบริษัทไปทานข้าว ตอนเย็นก็เช่นเดียวกันค่ะ ห้าโมงปุ้บถึงค่อยเก็บของ ทำความสะอาดโต้ะ ปิดคอมฯให้เรียบร้อย ค่อยๆเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินแบบชมพู่บนพรมแดงเทศกาลหนังเมืองคานส์ออกไป

ในความรู้สึกคนญี่ปุ่นจะรู้สึกว่าเราเป็นพนักงานที่ทุ่มเทค่ะ ไม่เอาเปรียบบริษัท คือจ้างมาทำงาน 8 ชั่วโมง คนญี่ปุ่นเค้าจะทำงาน 8 ชั่วโมงจริงๆ จาก 8โมงเช้าถึงเที่ยงเป็นเวลางาน จะไม่มีอย่างอื่นเข้ามาแทรก จากบ่ายโมงถึง 5โมงเย็น ก็เวลางาน จะทำงานจนถึงเวลาที่เข็มวินาทีชี้ไปที่เวลาพักหรือเลิกแล้วเท่านั้น ถึงจะหยุดทำแล้วเริ่มเก็บของ

ส่วนคนไทยจะเป็นอารมณ์ เลิก 5 โมงชิมิ เคๆ ชั้นเก็บของก่อน ตอน 4.50 น. (หรือหนักกว่านั้นคือ 4.30 น. หรือ 4 โมงเลยก็มี!)

สำหรับคนญี่ปุ่น ถ้าใครออกตอน 5 โมงเป้ะเนี่ย เค้าจะคิดเลยว่า เราเก็บของเลิกงานเองตั้งแต่ก่อน 5 โมงแล้วแน่ๆ เพราะฉะนั้นจะให้นายปลื้มก็ต้องทำแบบนายค่ะ

เอาจริงๆ คนญี่ปุ่นที่เป็นเจ้านายเราเนี่ย มาเร็ว กลับช้ากันทุกคนเลยนะ เค้าทุ่มเทกันจิงจิ้งง ไม่รู้ทุ่มอะไรนัก 555 เราเองก็เป็นคนไทยค่ะ ถึงจะทุ่มเทแต่ก็ยังไม่ขนาดนั้น ก็ทึ่งพวกเขาเหมือนกันนะ เห็นงี้แล้วเกทว่าทำไมประเทศเค้าเจริญ -.- (แต่เครียดไปหน่อยนะ)

(ชอบโฆษณานี้มาก ฮา 5555)


เรื่องต่อไปคือ การทักทาย ค่ะ
รู้ๆกันทั่วว่าคนญี่ปุ่นชาตินิยมม้ากมากก ลองพูดภาษาญี่ปุ่นให้ฟังนะ ต่อให้มันจะเป็นคำธรรมด้าธรรมดาขนาดไหน คนญี่ปุ่นก็จะประทับใจและมักจะตามด้วยประโยค "โอ้ คุณพูดญี่ปุ่นได้เหรอ เก่งจังเลยนะ" อะไรประมาณนี้ (คือจะดูเท่มากตอนนั้น จะรู้สึกเหมือนมีออร่ารอบตัวและกำลังเปล่งแสงออกมาสาดส่อง: จริงๆคือเค้าชมตามมารยาท 5555)

เพราะฉะนั้นเราจะซี้กับนายได้ พูดภาษาเค้าได้นี่เวิคสุด แต่ถ้าพูดไม่ได้ทั้งหมด เอาแค่พื้นฐานก็สามารถสร้างความประทับใจได้แล้วค่า

ถ้าใครเรียนภาษาญี่ปุ่นจะรู้เลยว่า คนญี่ปุ่นมีมารยาทมาก (ถึงมากที่สุด ซึ่งงต่างจากเดี้ยนโดยสิ้นเชิง) การทักทายเลยมีสถานการณ์ที่ต้องใช้เยอะกว่าภาษาไทยค่ะ ของเราแค่ สวัสดี ก็จบละ แล้วก็ กลับก่อนนะคะ อะไรแบบนี้

จี้ปุ่งเนี่ย เค้าทักทายสวัสดีกัน เช้า-บ่าย-เย็น (เจอตอนไหนก็ทักตอนนั้นนะคะ ไม่ใช่เจอวันละ 3 เวลา ก็ทักมันทุกแบบ นายงงแน่ๆ 5555) แล้วก็ยังมี ก่อนกลับ ต้องทักทายว่าขอตัวก่อน วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ คะประมาณนี้

ถ้าทักได้ถูกกาลเทศะล่ะก็ นายจะปลื้มมากทีเดียววววว

แต่ประโยคแรกที่เราพูด 90% ของคนญี่ปุ่นจะหยุดนิ่ง อึ้งไป 3 วิ แล้วก็พูดว่า "โอ้ คุณพูดภาษาญี่ปุ่นได้เหรอ" ล่ะ ไม่เชื่อก็ลองไปทำดูนะ แล้วมาบอกด้วยว่าเป็นรึปาว 5555

เรื่องคำทักทายขอยกไปเขียนโพสหน้านะคะ ^0^ (จริงๆ คือเดี๋ยวไม่มีรัยจะเขียน 5555555)

เรื่องที่ 3 ได้แก่ คำตอบรับ ค่ะ
เรารู้จักคำว่า はい กันดี แล้วชาวสยามเราก็ชอบที่จะ ไฮ้ๆๆๆๆ เมื่อเจอญี่ปุ่นกันเนอะ 555

แล้วไอ่คำว่า はい เนี่ยมันแปลว่าอะไร ทำไมใช้กันเยอะ?

คำว่า  はい เนี่ยมีความหมายเหมือน ใช่ค่ะ หรือ ค่ะ

แต่!!เวลาเจ้านายอธิบาย หรือ สั่งงาน ลองสังเกตดูว่า คนไทยจะ ไฮ้ๆๆๆ ใส่นายกัน แล้วบางทีเค้าก็หงุดหงิดเราโดยมิทราบสาเหตุ (หนูผิดรัยคะบอส T^T) จนลูกน้องงงไปตามๆกัน สาเหตุเพราะเราไม่ตอบรับเค้าค่ะ

บางคนบอกว่า เอ้า ก็ตอบ ไฮ้ ไปแล้วไงงง

ปะเด็นคือ มันไม่เต็มประโยคค่ะ คนญี่ปุ่นเนี่ยถ้าเค้าคุยกัน จะมีการตอบรับกันเสมอ เช่น
"จริงเหรอคะ"
"อย่างนั้นเองเหรอคะ"
"เป็นอย่างนั้นจริงๆด้วยสินะคะ" อะไรประมาณนี้

เพราะฉะนั้น เวลานายบรีฟงาน หรือสั่งงานอะไร เราควรต้องตอบเค้าไปว่า "ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ" ไม่ใช่แค่ ค่ะ อย่างเดียวน้า คนญี่ปุ่นเค้าจะรู้สึกว่า เราพูดว่า ค่ะๆๆๆๆ แล้วค่ะอะไรฟระะะ!เลยทำให้โมโหขึ้นมา นายบางคนอาจถามต่อเองด้วยภาษาไทยเลยว่า "เข้าใจไหม" (เคยโดนกันมาแล้วล่ะสิ มีทุวนะ -.-)

ประโยคไว้ตอบรับนายในสถานการ์ณอย่างนี้คือ "はい、わかりました" (hai, wakarimashita) ค่ะ

ลองเอาไปใช้กันดูนะคะ รับรองนายจะยิ้มแป้นนนน :>

โพสต์นี้ก็ของจบแค่นี้ก่อนน้า ไว้มาต่อภาค 2 ใหม่เนอะะะ
ขอบคุณที่ติดตามบลอคนี้กันค่าาาา
บ้ายบายย バイバ~イ